เยอะแยะจริงๆ ครับพี่น้องคนไข้ทั้งในทั้งนอกที่โรง'บาลร่ะยองวันนี้ นี่ถ้ารวมญาติที่มาเยี่ยมเข้าไปด้วยคงนับไม่หวัดไม่ไหว หมอ พยาบาลและเจ้าหน้าที่แต่ละคนมือเป็นระวิงเลยทีเดียว
คนไข้มีทั้งที่นอนโรง'บาลรวมถึงมาตามที่หมอนัด ยังไม่หมดเดี๋ยวรถ Ambulance จากโรง'บาลอำเภอรอบนอกเช่นแกลง บ้านค่าย ปลวกแดงฯ นำคนไข้มาส่งต่อที่นี่รวมไปถึงรถกู้ชีพกู้ภัยที่วิ่งเข้าออกค่อนข้างบ่อยเพื่อไปรับหรือนำคนเจ็บส่งโรง'บาลอีก โอ๊ย เห็นแล้วเห็นใจ (รัก) บุคลากรทางการแพทย์ที่นี่ที่ต้องรับศึกหนักแบบนี้ทุกวันขึ้นมาทันที (ไม่ปดนะ รักจริงๆ)
ในส่วนของคนไข้ที่มาโรง'บาลก็มีทั้งเดินมาได้เอง,นั่งรถเข็น,ญาติพยุงมาสารพัดสารพัน แต่ละคนไร้ซึ่งรอยยิ้ม ซึ่งถ้าใครสงสัยว่าทำไมเขาไม่ยิ้มกันผมแนะนำให้ลองไปเป็นคนไข้ดูแล้วจะรู้โดยไม่ต้องอธิบาย ๕๕๕
มีคนไข้คนหนึ่งลงจากรถที่ญาติมาส่ง คนไข้คนนี้มองสภาพปั๊บก็รู้ได้ทันทีเลยว่าต้องเป็นคนไข้หนัก ตอนที่คนไข้หนักคนนี้ลงจากรถน่ะผมอยู่ตรงนั้นพอดี ด้วยความที่เป็นคนช่างพูด (แปลว่า "พูดมาก" หรือ "ผีเจาะปาก") ผมเลยเข้าไปพูดคุยด้วย คนไข้หนักคนนี้คุยกับผมด้วยสำเนียงร่ะยองชั่ดเด๊ะ ไม่มีเพี้ยนซักกะคำ คุยไปยิ้มไป หัวเราะไป พูดเสียงดังตามสไตล์คนร่ะยองแท้ แกบอกว่าเป็นคนตำบลแกลง อำเภอเมืองร่ะยองไม่ไกลโรง'บาลนี้เท่าไร ที่มาวันนี้น่ะมาตามที่หมอนัดครั้งสุดท้ายเสร็จจากวันนี้ก็จบหลักสูตรแล้ว แกบอกอีกว่าดีนะที่เป็นสมัยนี้ถ้าสมัยก่อนละก็ต้องฉีดยารอบสะดือถึง ๑๔ เข็ม แกถูกหมาบ้ากัดนั่นเอง
ก่อนจะไปเยี่ยมแมะผมถามคนไข้หนักคนนั้นด้วยคำถามสุดท้าย แกตอบผมว่า "อ้ะ พูดแล่วจ้ะหาว่าลุงโม้ จริงๆ เกี๊ย ไม่โม้เหาะ ลุงน่ะหนัก ๑๕๐ โลพอดีเลยไอ้หมา"
ก่อนจะไปเยี่ยมแมะผมถามคนไข้หนักคนนั้นด้วยคำถามสุดท้าย แกตอบผมว่า "อ้ะ พูดแล่วจ้ะหาว่าลุงโม้ จริงๆ เกี๊ย ไม่โม้เหาะ ลุงน่ะหนัก ๑๕๐ โลพอดีเลยไอ้หมา"
ว้าวววว "คนไข้หนัก" หนักจริงๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น