วันจันทร์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

วันนี้ที่ภูกามยาว / ปฏิบัติหน้าที่นายตำรวจเวรอำนวยการชั้นผู้ใหญ่ (๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๒)

วันนี้วันจันทร์ที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ วันทำงานวันแรกในสัปดาห์นี้ของพี่น้องส่วนใหญ่หลังจากได้หยุดพักผ่อนกันมาสองวันเต็มช่วงเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมา หวังว่าทุกท่านคงจะมีไฟในตัวจนเต็มเปี่ยมพร้อมที่จะทำงานในสัปดาห์นี้ด้วยกันทุกคนนะครับ

เช้านี้ที่ภูกามยาวบรรยากาศแจ่มใสมากเลยทีเดียวตามภาพขวามือโดยช่วงเช้าๆ อากาศค่อนข้างเย็นกว่าวันก่อนๆ แต่พอสายๆ เข้ามาหน่อยก็อุ่นขึ้นพร้อมทั้งอุณหภูมิก็เพิ่มขึ้นเป็นลำดับๆ สภาพตอนนี้ที่พะเยาและคงจะเหมือนๆ กันทั้งภาคเหนือเลยก็ได้พูดได้ว่าความหนาวเย็นยังไม่มีหรือยังไม่มาสักเท่าไรทั้งๆ ที่เข้าสู่ปลายเดือนพฤศจิกายนกันแล้ว ไม่เหมือนปีก่อนๆ ที่ช่วงหน้าอากาศค่อนข้างหนาวจับใจ

การทำงานของผมเช้าวันนี้คงอยู่ที่โรงพักก่อนเหมือนเดิม มีงานเข้ามาและจะต้องทำรวมถึงติดตามความคืบหน้าอยู่พอสมควร นอกจากนั้นก็เป็นการควบคุมดูแลการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ประจำโรงพักในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการพี่น้องประชาชนซึ่งเช้านี้มีค่อนข้างหนาตาเพื่อให้การบริการพี่น้องประชาชนเหล่านั้นเป็นไปด้วยความรวดเร็ว เรียบร้อย ราบรื่นและตรงตามกำหนดระยะเวลาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำหนดไว้เกี่ยวกับการนี้

การทำงานนอกจากที่กล่าวถึงข้างต้นแล้วอีกเรื่องหนึ่งที่ผมถือว่าเป็นภารกิจสำคัญที่ต้องทำทุกวันก็คือการติดตามงานและสั่งงานแก่เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนที่ผมมีหน้าที่รับผิดชอบควบคุมกำกับดูแลอยู่ว่ามีอะไรคืบหน้า อะไรติดขัด หรือมีอะไรที่จะต้องทำในวันนี้บ้างโดยภาพด้านขวามือนี้เป็นการสั่งงานเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเกี่ยวกับภารกิจที่จะต้องปฏิบัติในวันนี้

สถิติคดีที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นปีจนถึงวันนี้มีดังนี้
๑) คดีอาญา ๑๖๗ คดี
๒) คดีจราจร ๒๘ คดี
๓) คดีชันสูตร ๑๕ คดี

๔) ห้องควบคุมวันนี้ไม่มีผู้ต้องหา
นอกจากจะต้องทำงานอื่นในหน้าที่แล้วยังมีหน้าที่อีกอย่างหนึ่งนั่นก็คือปฏิบัติหน้าที่นายตำรวจเวรอำนวยการผู้ใหญ่ประจำวันอีกหน้าที่หนึ่งด้วย โดยเวรอำนวยการฯ นี้มีอำนาจหน้าที่ในการควบคุมดูแล อำนวยการและสั่งการการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ประจำวันนี้เพื่อให้การปฏิบัติสำเร็จลุล่วงไปตามวัตถุประสงค์และเป้าหมาย หากมีปัญหาข้อขัดข้องอย่างไรก็ให้มีหน้าที่ในการจัดการแก้ไขปัญหาเหล่านั้น
เมื่อถึงเวลาพักเที่ยงผมเดินลงจากห้องทำงานเพื่อจะไปหาอะไรกินตอนกลางวันแต่ปรากฏว่าที่หน้าโรงพักตอนนั้นมีสองคนผัวเมียเขาเอาอาหารทะเลจำพวกกุ้งหอยปูปลามาจำหน่ายก็เลยเข้าไปพบปพะพูดคุยกับเขาซะหน่อย การพูดคุยกันก็ด้วยเรื่องทั่วๆ ไปอย่างเช่นสอบถามสารทุกข์สุกดิบรวมถึงให้กำลังใจน้องๆ เขาที่ทำมาหากินอย่างสุจริตแบบนี้และที่ลืมไม่ได้ก็คือขออวยพรให้รวยๆๆๆ ประมาณนั้น
สุขเถิดปวงประชา    ตำรวจกล้าจะคุ้มภัย
มีสุขทุกข์ไฉน         เราจะไปทุกแห่งหน
เป็นสุขเถิดน้องพี่     หัวใจนี้มีปวงชน
แดดกล้าหรือฟ้าฝน  จะสู้ทน "เพื่อประชา"

...........
<< ข้อมูลในเฟสบุ๊ก >>

หลังจากทานอาหารกลางวันเรียบร้อยแล้วผมออกพบปะเยี่ยมเยียนพี่น้องประชาชนตามโครงการพิทักษ์ประชา สร้างศรัทธาและความสุขหรือ Service mind police 5 ของตำรวจภูธรภาค ๕ ซึ่งวันนี้ออกพบปะพี่น้องจำนวน ๓ จุดประกอบด้วย
๑. ร้านสะดวกซื้อ ๗-๑๑ สาขาภูกามยาว
๒. ร้านกันเองคอมพิวเตอร์
๓. หจก.กรีนวิง สาขาภูกามยาว



การพบปะเยี่ยมเยียนครั้งนี้ก็เหมือนๆ กับครั้งก่อนๆ นั่นก็คือพูดคุย โอภาปราศัยสอบถามสารทุกข์สุกดิบเพื่อเป็นการสร้างสัมพันธภาพที่ดีให้เกิดขึ้นระหว่างตำรวจกับพี่น้องประชาชนเป็นสำคัญ รวมถึงการให้คำแนะนำบางอย่างที่น่าจะเป็นประโยชน์ซึ่งในส่วนนี้ผมได้ให้คำแนะนำพี่น้องประชาชนเกี่ยวกับการสังเกตบุคคลและยานพาหนะที่อาจจะกระทำผิดไว้ด้วยดังนี้

การสังเกตจดจำตำหนิรูปพรรณของคนร้าย
๑ หลักของการสังเกตจดจำตำหนิรูปพรรณคือจำสิ่งที่ใหญ่เห็นง่ายไปสู่สิ่งที่เล็กเห็นยาก จำลักษณะเด่นหรือตำหนิไปสู่ลักษณะปกติธรรมดา อย่าพยายามจดจำทุกสิ่งแต่ให้จดจำบางอย่างที่จำได้อย่างแม่นยำ อย่าถามผู้อื่นว่าเห็นอะไรแต่ให้รีบบันทึกตำหนิรูปพรรณที่เห็นและจดจำได้ลง ในสมุดหรือกระดาษโดยทันทีและมอบรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้มีหน้าที่ เกี่ยวข้อง
๒ สิ่งที่สามารถจดจำได้ง่ายและควรจำก่อน ได้แก่เพศ ประมาณอายุรูปร่าง สีผิว เชื้อชาติโดยดูจากใบหน้า รูปหน้า ลักษณะสีผมทรงผม ลักษณะปาก หูตา
๓ สิ่งที่เป็นจุดเด่นผิดปกติหรือตำหนิที่อาจจำได้ง่าย เช่น แผลเป็นมีลักษณะอย่างไร ขนาดเท่าใด อยู่ที่ส่วนไหนของร่างกาย ลายสักสักรูปอะไรสีอะไร อยู่ที่ส่วนไหนของร่างกาย ลักษณะท่าทางการเดิน ความพิการอื่น ๆ ได้แก่ตาบอด หูหนวก ใบ้แขนขาด้วน สำเนียงการพูด ลักษณะการแต่งกาย ลักษณะเครื่องประดับ ลักษณะการกระทำบ่อยๆ เช่น สูบบุหรี่จัด เป็นต้น
๔ คนร้ายมีการพรางใบหน้า เช่น สวมแว่นตากันแดด สวมหมวกนิรภัย สวมหน้ากาก ฯลฯ ให้พยายามจดจำสิ่งที่ใช้พรางและจดจำส่วนอื่นๆของร่างกายที่มิได้พราง และที่สามารถจดจำได้ง่ายดังกล่าวแล้วข้างต้น

การสังเกตจดจำตำหนิรูปพรรณยานพาหนะของคนร้าย
๑ ใช้หลักเดียวกับหลักของการสังเกตจดจำตำหนิรูปพรรณ คือ จำสิ่งที่ใหญ่เห็นง่ายไปสู่สิ่งที่เล็กเห็นยาก จำลักษณะเด่นหรือตำหนิเช่น รอยชน สติกเกอร์อย่าพยายามจดจำทุกสิ่งแต่ให้จดจำบางอย่างที่จำได้อย่างแม่นยำ อย่าถามผู้อื่นว่าเห็นอะไรแต่ให้รีบบันทึกตำหนิรูปพรรณที่ท่านเห็นและจดจำ ได้ลงในสมุดหรือกระดาษโดยทันทีและมอบรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้อง
๒ สิ่งที่สามารถจดจำได้ง่ายและควรจดจำก่อน ได้แก่ประเภทรถ(รถยนต์ รถจักรยานยนต์รถแท็กซี่ ฯลฯ ) สีของรถ ความเก่า – ใหม่ ของรถ ยี่ห้อ หมายเลขทะเบียน ให้พยายามสังเกตด้วยว่าเป็นแผ่นป้ายทะเบียนที่ติดไว้อย่างแน่นหนาหรือไม่ หรือมีการพรางตัวเลข ตัวอักษรหรือไม่
๓ สิ่งที่เป็นตำหนิหรือรอยชนที่เห็นได้ชัด รวมทั้งจุดเด่น เช่น เป็นรถแต่งเพื่อใช้แข่งขัน หรือมีเสาอากาศ มีอุปกรณ์พิเศษตกแต่งรถ สิ่งประดับรถ สติกเกอร์บัตรผ่านเข้า – ออกสถานที่ต่างๆ เสียงของเครื่องยนต์

"พฤติการณ์ของคนร้ายรายนี้มันเป็น..แบบนี้ .. เนี่ยะ แล้วพอมันได้ทรัพย์ผู้เสียหายไปมันก็ทำ.. แบบนี้ .. เนี่ยะ เพราะฉะนั้นเราต้องตามมัน .. แบบนี้ ฯลฯ" ส่วนหนึ่งที่ผู้บังคับบัญชาคนน่ารักคนนั้นพูดกะชุดสืบสวน << ข้อมูลในเฟสบุ๊ก >>
.........
ช่วงบ่ายหลังจากเสร็จสิ้นการออกพบปะเยี่ยมเยียนพี่น้องประชาชนแล้วผมเดินทางกลับไปทำงานที่โรงพักต่อไปซึ่งมีงานให้ทำเยอะแยะเหมือนกันและส่วนหนึ่งนั้นก็คือการวางแผนการทำงานร่วมกับ พ.ต.ท.เชาวลิต คูห์ตระกูล สว.สส. และเจ้าหน้าที่ในงานสำคัญเรื่องหนึ่งที่ห้องสืบสวนครับ


ไก่จ๋าไก่ ข้าขอบใจ เจ้าไก่นัก
ช่างน่ารัก ไข่ไข่มา ให้ข้านี่
ได้กินไข่ ทุกทุกวัน นั้นแสนดี
ไก่เจ้ามี บุญคุณนัก ข้ารักเอ็ง

..........
ช่วงบ่ายแก่ๆ หลังหมดงานในห้องแล้วผมเดินลงไปติดตามตรวจดูความคืบหน้าโครงการบ้านนี้มีรักฯ ของโรงพักเราตาม ร.ป.จ.หรือระเบียบปฏิบัติประจำวันและในส่วนของไก่พันธุ์ไข่ของเราที่เลี้ยงไว้ประมาณ ๒๐ ตัวนั้นวันนี้มีไข่ออกมา ๑๒ ฟองจึงให้เจ้าหน้าที่เก็บไว้เพื่อเอาไปกินในวันต่อไป << ข้อมูลในเฟสบุ๊ก >>


ภาพทั้งหมดในวันนี้คลิกที่ลิงก์ด้านล่างครับ

<< ตรงนี้จ้าาา >>

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น