วันจันทร์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2560

วันนี้ที่ภูกามยาว (๒๕ กันยายน ๒๕๖๐)

วันนี้วันจันทร์ที่ ๒๕ กันยายน ๒๕๖๐ สัปดาห์สุดท้ายของข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจที่มีอายุครบ ๖๐ ปีในปีงบประมาณนี้ที่มีเวลาทำงานก่อนจะออกไปเลี้ยงหลานตามวิถีทางของทางราชการ สำหรับคนที่ยังอยู่ซึ่งรวมถึงผมด้วยก็ต้องทำงานกันต่อไปตามหน้าที่ อย่างว่าแหละครับเมื่อระฆังจะไม่เคาะบอกว่า "หมดยก" ก็ต้องชกกันต่อไปจนกว่าจะหมดเวลา
ที่ภูกามยาวเช้าวันนี้อากาศแจ่มใสดีมากเลยทีเดียวแต่แดดค่อนข้างร้อน ยิ่งในห้องทำงานช่วงเช้าแล้วด้วยนั่งธรรมดาไม่ได้หรอกเหงื่องี้ออกมาเต็มเนื้อตัวหน้าตาเลยต้องเปิดพัดลมช่วย ครั้นจะเปิดแอร์ก็ไม่ได้เพราะเราต้องช่วยหลวงประหยัดค่าไฟฟ้าด้วย แอร์ที่นี่เขามีกำหนดให้เปิดเป็นเวลาส่วนใหญ่ก็จะช่วงบ่ายๆ ที่อากาศร้อนจริงๆ นั่นแหละ พวกเราทุกคนถือปฏิบัติกันจนเป็นปกติวิสัยแล้วเลยถือเป็นเรื่องปกติไป

วันนี้ตำรวจภูกามยาวเรารวม ๗ คนเดินทางไปรับรถหลวงซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติแจกจ่ายให้เอามาปฏิบัติหน้าที่ที่กรุงเทพโดยรถยนต์ที่ได้เป็นรถตู้ ๑ คันและรถปิกอัพอีก ๔ คนและเมื่อได้รับรถใหม่มาแล้วก็จะให้นำรถคันเก่าที่ใช้อยู่ส่งคืนและใช้คันใหม่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ดีเหมือนกันครับจะได้มีรถใหม่ๆ ที่มีประสิทธิภาพดีๆ ใช้กันหลังจากที่รถคันเก่าก็ค่อยๆ เสื่อมสภาพไปตามเวลา ขอบคุณสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นอย่างสูงนะครับ





วันนี้นอกจากผมปฏิบัติหน้าที่ตามปกติของงานในหน้าที่ความรับผิดชอบแล้วยังทำหน้าที่เป็นนายตำรวจเวรอำนวยการผู้ใหญ่ซึ่งมีหน้าที่ควบคุม กำกับดูแลการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ต่างๆ อีกส่วนหนึ่งด้วย สำหรับหน้าที่เวรยามปรากฏตามภาพด้านซ้ายมือ 
หลังจากตรวจตราการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ต่างๆ เสร็จแล้วผมก็ไปนั่งทำงานที่ห้องทำงานต่อครับ

<< ภาพในส่วนนี้ >>
"รู้ไหมว่าทำไมผู้บังคับบัญชาไม่ค่อยเก็บเอกสารเอง" เราถามจนท.หลังจากเอาเอกสารที่จะต้องดำเนินการเดือนตุลาไปฝากเขาไว้
"บ่ฮู้ครับ เอ้อ แล้วจะใดนายๆ เปิ้นบ่ค่อยเก็บล่ะครับ" จนท.ถาม
"เพราะถ้าเก็บไว้เองหากเกิดหายไปแล้วไม่รู้จะด่าใครไง เหอๆๆๆ" เราตอบ 

พักเบรกจ้า


"ตัวไป ไฟดับ" หมายถึงก่อนออกจากห้องให้ดับไฟให้เรียบร้อย ไม่ใช่หมายถึงพอออกจากห้องไปแล้ว "ไฟในตัว" มอดไหม้จนไม่เหลือหลอ อย่าเข้าใจผิดนะคร้าบบบ

เหียอู๊ดออกไปกินข้าวกลางวันก่อนนะ ไฟในตัวน่ะยังมีอยู่ เหอๆๆๆ

สำหรับอาหารกลางวันวันนี้ไม่ต้องออกไปกินที่อื่นเพราะเราซื้อมากินกันในห้องสืบสวนนี่แหละจ้า

<< รายละเอียด >>
ช่วงบ่ายหลังจากทานอาหารกลางวันกันแล้วผมนั่งทำงานต่อที่ห้องสืบสวนครับโดยวันนี้มีเรื่องที่พวกเราจะต้องออกไปสืบสวนติดตามหาตัวผู้กระทำผิดอยู่เรื่องหนึ่งซึ่งก่อนออกไปทำงานพวกเราได้ประลชุมปรึกษาหารือและหาข้อพิจารณาที่คิดว่าเหมาะสมและดีที่สุดระหว่างกันและกันก่อนซึ่งการทำงานอยู่ในห้องเดียวกันทั้งหมดตั้งแต่รอง ผกก.ลงมานี่ก็ดีไปอย่างนะผมว่า จะทำอะไรก็ปรึกษาหารือกันซะที่นี่เลย ไม่ต้องวิ่งซ่กๆๆ ไปถามนายถึงห้องทำงาน อะไรๆ ที่ว่ายากก็จะเป็นง่ายไปภายในบัดดล

<< ภาพในส่วนนี้ >>
ตัดภาพกลับไปตอนอาหารกลางวัน : ใครคนนี้กินทีหลังเขาตามธรรมเนียมต้องล้างจานครับ แต่..คนนี้ไม่ต้องเพราะน้องๆ เขาบอกว่า "นายบ่ต้องล้างครับเดี๋ยวผมจัดการเอง" แฮ่ะๆ ไม่ใช่อะไรหรอก เพราะคนเป็นนายล้างไม่สะอาด (อันหลังนี่ผมคิดเอง เหอๆๆ) / พักเบรกจ้า
งานช่วงบ่าย ไม่ได้ อยู่เป็นที่
ต้องเคลื่อนที่ ไปที่นี่ ไปที่นั่น
นั่งจับเจ่า อยู่ห้องเรา ทำไมกัน
งานอยู่ไหน เราไปนั่น มันซะเลย
..........
เกรงใจเจ้าหน้าที่เขาน่ะ เดินไปหาเขาที่ห้องแล้วก็ดูงานเซ็นงานให้เขาซะเลย เนี่ยะ ดูฮิ


<< ภาพในส่วนนี้ >>

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น