วันเสาร์ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

ความทรงจำครั้งเยาว์วัย : ตอน “ชนะเลิศวิชาเรียงความ” (๑๖ พฤษภาคม ๒๕๕๘)

บ่ายวันนี้ในวิชาเรียงความ “ครูอุดร แสงมณี” ซึ่งเป็นครูวิชาภาษาไทย (และอีกเกือบทุกวิชา) โรงเรียนวัดพังราดเรียกฉันออกไปหน้าชั้นพร้อมมอบสมุดให้หัวหนึ่ง (เล่มหนึ่ง) ซึ่งครูเป็นคนออกสตางค์ซื้อให้ฉันต่อหน้าเพื่อนๆ นักเรียนชั้น ป.๓ ที่นั่งประจำที่อีก ๔๙ คนโดยครูบอกฉันกับเพื่อนๆ ว่า “นี่คือรางวัลชนะเลิศวิชาเรียงความของเด็กชั้น ป.๓ ที่ครูให้นักเรียนไปเรียงมาเป็นการบ้านเมื่อวานซืน ตอนนี้ครูตรวจเสร็จแล้วผลปรากฏว่าคนที่แต่งและเรียงความได้ดีที่สุด อ่านแล้วกินใจที่สุดคือ ด.ช.สุพจน์ มัจฉา เพราะฉะนั้นครูจึงขอมอบสมุดเล่มนี้ให้เธอเป็นรางวัลนะสุพจน์”

ฉันยกมือไหว้ขอบคุณครูอุดรท่ามกลางเสียงตบมือของเพื่อนๆ อย่างกึกก้องและรับสมุดนั้นไว้เพื่อเอาไปใช้ในการเรียนหนังสือด้วยความซาบซึ้งใจในพระคุณของครู ครูบอกฉันว่า “สุพจน์ เธอเขียนหนังสือได้ดีมาก นี่ขนาดเรียน ป.๓ นะเธอยังเขียนได้ดีขนาดนี้ โตขึ้นเธอสามารถเป็นนักเขียนได้สบายๆ แต่ครูก็ไม่อยากให้เธอเป็นหรอกเพราะนักเขียนน่ะมันไส้แห้ง ใจจริงครูอยากให้เธอเรียนหมอ เรียนวิศวะมากกว่าเพราะเธอเรียนหนังสือเก่ง สอบได้ที่ ๑ ทุกเทอมมาตั้งแต่ชั้น ป.๑ แต่ไม่ว่าเธอจะเรียนหรือประกอบอาชีพอะไรก็ตามถ้าอาชีพนั้นมันสุจริตซะอย่างแล้วเป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจทั้งนั้น” ครูบอก
ถ้าจะว่าไปแล้วฉันเองก็อยากเรียนหมอเรียนวิศวะเหมือนที่ครูบอกนั่นแหละแต่เพาะกะแมะฉันยากจนจะเอาเงินที่ไหนส่งเสียฉัน น้องๆ ก็ยังอีกหลายคนแต่อย่างไรก็ตามก็จะทำตามที่ครูบอก ...ไม่ว่าเธอจะเรียนหรือประกอบอาชีพอะไรก็ตามถ้าอาชีพนั้นมันสุจริตซะอย่างแล้วเป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจทั้งนั้น...

ด.ช.สุพจน์ มัจฉา
ชั้น ป.๓ โรงเรียนวัดพังราด (เพิ่มราษฎร์รังสรรค์) ตำบลพังราด อำเภอแกลง จังหวัดร่ะยอง
๑๖ พฤษภาคม ๒๕๑๒

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น